บทที่5 วัฎจักรวงจรชีวิต การพัฒนาระะบบการจัดการความรู้
Compare CSLC and KMSLC
: เปรียบเทียบ CSLC และ KMSLC
User’s vs. Expert’s Characteristics :
คุณลักษณะของผู้ใช้เทียบกับผู้เชี่ยวชาญ
Stages of KMSLC
:
ขั้นตอนของ KMSLC
Layers of KM Architecture
: ชั้นของ KM สถาปัตยกรรม
Key
Differences
•
Systems
analysts deal with information from the
user; knowledge developers deal with knowledge from domain experts
นักวิเคราะห์ระบบสร้างสารสนเทศขึ้นมาจากผู้ใช้งาน ;
นักพัฒนาความรู้จะกระทำจากความรู้จากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญโดเมน
• Users know the problem but not the solution; domain experts know
both the problem and the solution
ผู้ใช้รู้ปัญหา แต่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา
แต่ถ้าเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านโดเมนจะรู้ทั้งปัญหาและวิธีแก้ไขด้วย
Key Differences ความแตกต่างที่สำคัญ
• Conventional SLC is primarily sequential;
KM SLC is incremental and interactive.
SLC แบบดั้งเดิมนั้นมีการเรียงตัวเป็นหลัก
KM SLC นั้นเพิ่มขึ้นและมีการโต้ตอบกัน
•
System testing normally at end
of conventional system life cycle; KM system testing evolves from
beginning of the cycle
การทดสอบระบบตามปกติเมื่อสิ้นสุดวงจรชีวิตของระบบทั่วไป
การทดสอบระบบ KM นั้นวิวัฒนาการมาตั้งแต่ต้นรอบ
•
Conventional system life cycle is process-driven
or “specify then build”
But KM system life cycle is result-oriented or
“start slow and grow”
วงจรชีวิตของระบบแบบดั้งเดิมนั้นขับเคลื่อนด้วยกระบวนการหรือ“ ระบุแล้วสร้าง” แต่วงจรชีวิตของระบบ
KM นั้นจะเน้นไปที่ผลลัพธ์หรือ“
เริ่มช้าและเจริญเติบโตไปเรื่อยๆ”
Key Similarities ข้อเหมือนกันที่สำคัญ
•
Both begin with a problem and end
with a solution
ทั้งสองเริ่มต้นด้วยปัญหาและจบลงด้วยการแก้ปัญหา
•
Both begin with information
gathering or knowledge capture
ทั้งสองเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลหรือการจับความรู้
•
Testing is essentially the same to
make sure “the system is right” and “it is the right system”
การทดสอบนั้นเป็นแบบเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่า "ระบบถูกต้อง" และ
"เป็นระบบที่เหมาะสม"
• Both developers must choose the
appropriate tool(s) for designing their respective systems
ผู้พัฒนาทั้งสองจะต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการออกแบบระบบที่เกี่ยวข้อง
Evaluate Existing Infrastructure
ประเมินโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
System justifications:
เหตุผลของระบบ
•
What knowledge will be lost through
retirement, transfer, or departure to other firms?
ความรู้อะไรที่จะหายไปจากการเกษียณอายุการย้าย หรือ การออกไปองค์กรอื่น?
•
Is the proposed KM system needed in
several locations?
จำเป็นต้องใช้ระบบ KM ที่เสนอในหลายตำแหน่งหรือไม่
• Are experts available and willing to
help in building a KM system?
มีผู้เชี่ยวชาญและพร้อมที่จะช่วยเหลือในการสร้างระบบ KM หรือไม่?
•
Does the problem in question require
years of experience and tacit reasoning to solve?
ปัญหาที่ต้องสงสัยประสบการณ์เป็นปีต้องใช้ประสบการณ์และเหตุผลในการแก้ปัญหาโดยปริยายหรือไม่?
Evaluate Existing
Infrastructure
The Scope Factor:
ปัจจัยขอบเขต
•
Consider
breadth and depth of the project within financial, human resource, and
operational constraints
พิจารณาความกว้างและความลึกของโครงการภายใต้ข้อ จำกัด
ด้านการเงินทรัพยากรมนุษย์และการดำเนินงาน
• Project must be
completed quickly enough for users to foresee its benefits
โครงการจะต้องเสร็จเร็วอย่างรวดเร็วพอที่ผู้ใช้หรือเปล่า
•
Check to see
how current technology will match technical requirements of the proposed KM
system
ตรวจสอบว่าเทคโนโลยีปัจจุบันจะตรงกับความต้องทางเชิงเทคนิคของระบบ KM ที่เราจะพัฒนา
Role of Strategic
Planning บทบาทของการวางแผนกลยุทธ์
•
Risky to plunge
into a KMS without strategy
มีความเสี่ยงที่จะไม่พัฒนามันแล้วมันอาจจะไม่สำเร็จถ้าหากเราไม่มีกลยุทธ์
• Knowledge
developer should consider:
นักพัฒนาความรู้ควรพิจารณา:
•
Vision Foresee what the business is trying to achieve, how it will be
done, and how the new system will achieve goals
วิสัยทัศน์ เล็งเห็นถึงสิ่งที่ธุรกิจพยายามที่จะให้เกิดความสำเร็จและวิธีการที่ระบบใหม่จะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร
• Resources Check on the affordability of the business to invest in a new KM
system
ทรัพยากร ตรวจสอบธุรกิจที่มีการล่อเลี้ยงความสามารถในการจ่ายของธุรกิจเพื่อลงทุนในระบบ
KM ใหม่
·
Culture Is the
company’s political and social environment open and responsive to adopting a
new KM system?
วัฒนธรรม สภาพแวดล้อมทางการเมืองและสังคมของบริษัทเปิดกว้างและตอบสนองต่อการใช้ระบบ
KM ใหม่หรือไม่?
Form the KM Team จัดตั้งทีมงาน KM
• Identify the key
stakeholders of the prospective KM system.
ระบุผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญของระบบ KM ที่นำเสนอมาหรือระบบ KM ที่เราพัฒนา
• Team success
depends on:
•
Ability of team
members ความสามารถ
•
Team size ขนาดของทีม
• Complexity of
the project
โปรเจกนี้มีความสับซ้อนแค่ไหน
•
Leadership and
team motivation ขึ้นอยู่กับผู้นำและแรงจูงใจของทีม
• Not promising
more than can be realistically delivered
ไม่มีสัญญาอะไร มากไปกว่าสิ่งที่ได้ในการส่งมอบจริงๆ
Knowledge Capture
การจับความรู้
•
Explicit
knowledge captured in repositories from various media
ความรู้ที่ชัดเจนจับในที่เก็บจากสื่อต่างๆ
• Tacit knowledge
captured from company experts using various tools and methodologies
ความรู้แบบ Tacit ที่รวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญของ
บริษัท โดยใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ
•
Knowledge
developers capture knowledge from experts in order to build the knowledge base
นักพัฒนาความรู้จับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างฐานความรู้
Design the KM Blueprint พิมพ์เขียว การออกแบบ KMS
The KM blueprint addresses several
issues: KM พิมพ์เขียวจัดการกับปัญหาหลายประการ:
• Finalize scope
of proposed KM system with realized net benefits
สรุปขอบเขตสุดท้ายของระบบ KM ที่เสนอพร้อมผลประโยชน์สุทธิที่รับรู้
•
Decide on required
system components
พิจารณาความต้องการของระบบ
•
Develop the key
layers of the KM software architecture to meet company requirements
พิจารณาความต้องการพัฒนาเลเยอร์สำคัญของสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ KM เพื่อตอบสนองความต้องการของระบบ
-System interoperability and scalability with existing company IT
infrastructure
ความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบและความสามารถในการปรับขยายได้ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่แตกต่าง กันที่มีอยู่ในองค์กร
1. Purpose เป้าหมาย
2. Statement of Scope &
Objectives ขอบเขตของระบบ วัตถุประสงค์
2.1 System functions 2.1 ฟังก์ชั่นระบบ
2.2 Users and characteristics 2.2 ผู้ใช้และคุณลักษณะ
2.3 Operating environment 2.3 สภาพแวดล้อมการทำงาน
2.4 User environment 2.4 สภาพแวดล้อมของผู้ใช้
2.5 Design/implementation constraints 2.5 ข้อ จำกัด ในการออกแบบ / การนำไปใช้
2.6 Assumptions and dependencies 2.6 ข้อสันนิษฐานและการอ้างอิง
2.1 System functions 2.1 ฟังก์ชั่นระบบ
2.2 Users and characteristics 2.2 ผู้ใช้และคุณลักษณะ
2.3 Operating environment 2.3 สภาพแวดล้อมการทำงาน
2.4 User environment 2.4 สภาพแวดล้อมของผู้ใช้
2.5 Design/implementation constraints 2.5 ข้อ จำกัด ในการออกแบบ / การนำไปใช้
2.6 Assumptions and dependencies 2.6 ข้อสันนิษฐานและการอ้างอิง
3. Functional Requirements ความต้องการการทำงาน
3.1 User interfaces 3.1 ส่วนต่อประสานผู้ใช้
3.2 Hardware interfaces 3.2 ส่วนต่อประสานฮาร์ดแวร์
3.3 Software interfaces 3.3 ส่วนต่อประสานซอฟต์แวร์
3.4 Communication protocols and interfaces 3.4 โปรโตคอลการสื่อสารและส่วนต่อประสาน
3.1 User interfaces 3.1 ส่วนต่อประสานผู้ใช้
3.2 Hardware interfaces 3.2 ส่วนต่อประสานฮาร์ดแวร์
3.3 Software interfaces 3.3 ส่วนต่อประสานซอฟต์แวร์
3.4 Communication protocols and interfaces 3.4 โปรโตคอลการสื่อสารและส่วนต่อประสาน
4. Nonfunctional Requirements ข้อกำหนดที่ไม่สามารถใช้งานได้
4.1 Performance requirements 4.1 ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ
4.2 Safety requirements 4.2 ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
4.3 Security requirements 4.3 ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
4.4 Software quality attributes 4.4 คุณลักษณะด้านคุณภาพของซอฟต์แวร์
4.5 Project documentation 4.5 เอกสารประกอบโครงการ
4.6 User documentation 4.6 เอกสารประกอบสำหรับผู้ใช้
4.1 Performance requirements 4.1 ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ
4.2 Safety requirements 4.2 ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
4.3 Security requirements 4.3 ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
4.4 Software quality attributes 4.4 คุณลักษณะด้านคุณภาพของซอฟต์แวร์
4.5 Project documentation 4.5 เอกสารประกอบโครงการ
4.6 User documentation 4.6 เอกสารประกอบสำหรับผู้ใช้
Testing the KM System การทดสอบระบบ KM
•
Verification
procedure: ensures that the system has the right function
ขั้นตอนการยืนยัน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบมีฟังก์ชั่นที่เหมาะสม
ขั้นตอนการยืนยัน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบมีฟังก์ชั่นที่เหมาะสม
•
Validation procedure: ensures that the system has the right
out
ขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้อง:
ทำให้แน่ใจว่าระบบมีเอาต์พุตที่ถูกต้อง
• Validation of
KM systems is not foolproof
การตรวจสอบความถูกต้องของระบบ KM นั้นไม่ผิดพลาด
การตรวจสอบความถูกต้องของระบบ KM นั้นไม่ผิดพลาด
Implement the KM System การนำระบบ KM ไปใช้
• Converting a
new KM system into actual operation
การแปลงระบบ KM ใหม่เป็นการใช้งานจริง
การแปลงระบบ KM ใหม่เป็นการใช้งานจริง
• includes
conversion of data or files
รวมถึงการแปลงข้อมูลหรือไฟล์
รวมถึงการแปลงข้อมูลหรือไฟล์
• also includes
user training
รวมถึงการฝึกอบรมผู้ใช้
รวมถึงการฝึกอบรมผู้ใช้
• Quality
assurance is important, which includes checking for:
การประกันคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสำหรับ:
• Reasoning
errors
ประกันความผิดพลาด
ประกันความผิดพลาด
• Ambiguity
ความคลุมเครือ
ความคลุมเครือ
• Incompleteness
ความไม่สมบูรณ์
ความไม่สมบูรณ์
• False
representation (false positive and false negative)
ไปตรวจสอบถูกทั้งๆที่ผิดการแทนค่าเป็นเท็จ (ค่าบวกลบและค่าลบเท็จ)
ไปตรวจสอบถูกทั้งๆที่ผิดการแทนค่าเป็นเท็จ (ค่าบวกลบและค่าลบเท็จ)
Manage Change and Rewards Structure การจัดการการเปลี่ยนแปลงและรางวัลของโครงสร้าง
• Goal is to
minimize resistance to change
เป้าหมายคือลดความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงให้น้อยที่สุด
เป้าหมายคือลดความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงให้น้อยที่สุด
•
Experts ผู้เชี่ยวชาญ
• Regular employees
(users) ผู้ใช้งาน
• Troublemakers ก่อกวน
•
Resistances via
projection, avoidance, or aggression
ความต้านทานผ่านการฉายการหลีกเลี่ยงหรือ การรุกราน
ความต้านทานผ่านการฉายการหลีกเลี่ยงหรือ การรุกราน
Post-system Evaluation การประเมินผลหลังนำระบบไปใช้
• Assess system
impact in terms of effects on:
พิจารณาประเมินผลกระทบของระบบในแง่ของผลกระทบต่อ
•
People บุคคล
•
Procedures วิธีการปฏิบัติ
• Performance of
the business ประสิทธิการปฏิบัติงานของธุรกิจ
•
Areas of
concern: ขอบเขตที่ต้องคำนึง
• Quality of
decision making ประสิทธิภาพของการตัดสินใจ
• Attitude of end
users ทัศนคติของผู้ใช้งาน
เดรตปรับปรุงให้มันทันสมัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น